top of page
Baguette jambon fromage3.jpeg

ในผลิตภัณฑ์โคลด์คัท มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรซ่อนอยู่บ้าง ?  

 

ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทจากยุโรป ผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศที่ใครๆ หลายคนมองว่าเป็นสินค้าพรีเมี่ยมและมีราคาแพง ในขณะที่บางคนอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการ ว่าเราสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัทบ่อยครั้งตามที่ต้องการได้หรือไม่ การรับประทาน บ่อยๆ จะส่งผลต่อสุขภาพของเราหรือไม่

ความมุ่งมั่นของผู้ผลิตในยุโรปเพื่อให้ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าผลิตภัณฑ์โคลด์คัทมักมีปริมาณไขมันที่ค่อนข้างสูง ผู้ผลิตในยุโรปจึงมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว  

 

  • ใน 30 ปีข้างหน้า ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทจากยุโรปจะมีปริมาณไขมันลดลง 25 %

  • ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โคลด์คัทในฝรั่งเศส มีความพยายามที่จะผลิตสินค้าคุณภาพ โดยคำนึงถึงหลักโภชนาการและสุขภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก ด้วยการลดปริมาณเกลือ ปริมาณไขมัน หรือแม้กระทั่งการลดปริมาณไนไตรต์ (สารกันเสีย) โดยใช้เท่าที่จำเป็นที่สุด

 

ด้วยความก้าวหน้าและการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ในวันนี้ เราจึงมีผลิตภัณฑ์โคลด์คัทที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์โคลด์คัทของยุโรปซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีกรดอะมิโนมากถึง 10 % ในผลิตภัณฑ์จำพวกปาเต้ เทอร์รีน และไส้กรอก หรือมากถึง 20 % ในผลิตภัณฑ์ประเภทแฮม ไส้กรอกแห้งและเบคอน นอกจากนี้ ยังมีเหล็กฮีม ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากผักและผลไม้ถึง 2.5 เท่า

ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทจากยุโรป มีผลอย่างไรต่อสุขภาพของเรา ?

ร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารที่จำเป็นเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในแต่ละวัน สารอาหารที่แต่ละคนต้องการก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เพศ อายุ ขนาดและน้ำหนักตัว กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หรือข้อจำกัดทางด้านสุขภาพ เป็นต้น

 

นอกเหนือจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ทุกคนต้องได้รับสารอาหารที่จำเป็น 7 ชนิด ดังต่อไปนี้

 

  • โปรตีน - ธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต

  • ไขมัน - สารอาหารที่ให้พลังงานต่อร่างกาย

  • คาร์โบไฮเดรต – สารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย (น้ำตาล)

  • ใยอาหาร – น้ำตาลจากพืช (ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช ธัญพืช)

  • วิตามิน – สารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน แต่จำเป็นสำหรับกระบวนการทางสรีรวิทยาหลายอย่าง

  • เกลือแร่ – จัดอยู่ในกลุ่มสารอาหารรอง มักพบในอาหารจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการแปรรูป

  • และท้ายที่สุด น้ำ ซึ่งจำเป็นต่อระบบเผาผลาญ

ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการ ทำไมเราถึงควรทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัท ?

แม้ว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดจะมีคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้ว ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทของยุโรปล้วนแล้วแต่มีสารอาหารสำคัญ ดังนี้

  • โปรตีน ที่มีกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ

  • ไขมัน พร้อมกรดไขมันไม่อิ่มตัว 57% ซึ่งมากกว่า 12% เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและแทบไม่มีไขมันอิ่มตัวทรานส์

  • แหล่งวิตามินที่สำคัญจากวิตามินกลุ่ม B3, B6, PP และ B12

  • ธาตุต่างๆ เช่น เหล็กฮีม สังกะสี และซีลีเนียม

การเลือกทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัท ตามความต้องการสารอาหาร

ไขมัน

ปริมาณไขมันในผลิตภัณฑ์โคลด์คัท 100 กรัม มีปริมาณตั้งแต่ 5 ถึง 40 กรัม โดยปกติแล้ว เรามักนำเนื้อสุกรมาทำเป็นสินค้าโคลด์คัทมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น โดยที่ในเนื้อสุกรนั้น มักจะมีไขมันติดอยู่กับด้านที่ไม่ติดมัน และเราสามารถเอาไขมันออกได้ในช่วงระหว่างการทำผลิตภัณฑ์โคลด์คัท หากต้องการรับประทานไขมัน ควรเลือกสินค้าประเภทมูสหรือริแยตส์ มากกว่าแฮมสุกหรือแฮมแห้ง ทั้งนี้ ปริมาณไขมันในอาหารแต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไป

 

  • ไขมันน้อยกว่า 10 % :  แฮมสุก แฮมแห้ง (แบบไม่มีไขมัน) อาหารประเภทเครื่องใน

  • ไขมันระหว่าง 10 ถึง 20 % : แฮมแห้ง ไส้กรอกเครื่องในรมควัน

  • ไขมันระหว่าง 20 ถึง 30 % : เบคอน เทอร์รีนสไตล์คันทรี่ ไส้กรอกเครื่องใน ไส้กรอกบูแดง ไส้กรอกอื่นๆ

  • ไขมันระหว่าง 30 ถึง 40 % : มูส ปาเต้ ไส้กรอกแห้ง ไส้กรอกโชริโซ่ ริแยตส์

 

โปรตีน

ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ ยกตัวอย่างเช่น ในผลิตภัณฑ์โคลด์คัท ปริมาณ 100 กรัมนั้น จะมีปริมาณโปรตีนระหว่าง 10 ถึง 26 กรัม โปรตีนที่ได้จากผลิตภัณฑ์โคลด์คัทมีคุณค่าทางชีวภาพที่ยอดเยี่ยม (เมื่อเทียบกับโปรตีนอ้างอิง) และมีอัตราการย่อยที่สูงถึง 94 % เทียบเท่ากับโปรตีนจากเนื้อปลา

 

เกลือ

เกลือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำผลิตภัณฑ์โคลด์คัทบางรายการ ด้วยเหตุผล 3 อย่าง ดังนี้

  • เกลือทำหน้าที่เป็นวัตถุกันเสีย

  • เกลือมีคุณสมบัติทางเทคนิค สามารถทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะได้

  • เกลือช่วยให้รสชาติของอาหารเด่นชัดขึ้น

 

เพื่อให้คุณได้รับประทานเกลือที่เพียงพอ การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัท แทนการเติมเกลือในอาหารของคุณ ก็เป็นความคิดที่ดีอย่างหนึ่ง

 

วิตามินและแร่ธาตุ

โดยทั่วไปแล้ว วิตามินและแร่ธาตุมักพบได้อยู่แล้วในผลิตภัณฑ์โคลด์คัท โดยปริมาณจะขึ้นอยู่กับขนาดของอาหารและสูตรอาหารนั้นๆ เรามักพบวิตามินกลุ่ม B3, B6, PP และ B12 และแร่ธาตุอย่างเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม ในผลิตภัณฑ์โคลด์คัท

 

ไส้กรอกบูแดง นัวร์ เป็นอาหารที่มีปริมาณธาตุเหล็กสูงเป็นอันดับต้นๆ  ยกตัวอย่างเช่น ในไส้กรอกบูแดง นัวร์ ขนาด 125 กรัม จะมีปริมาณธาตุเหล็กถึง 28.5 กรัม

แล้วในส่วนของปริมาณแคลอรี ?

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณแคลอรีวันละ 1,800 ถึง 2,200 กิโลแคลอรีต่อวัน สำหรับผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 60 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรง และระหว่าง 2,400 ถึง 2,600 กิโลแคลอรีต่อวัน สำหรับผู้ชายอายุระหว่าง 18 ถึง 60 ปี

เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับแคลอรีในปริมาณที่มากเกินไป และเพื่อป้องกันการเกิดภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) และการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง การรับประทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัท เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ในผลิตภัณฑ์โคลด์คัทปริมาณ 100 กรัม จะมีปริมาณแคลอรีดังต่อไปนี้ : แฮมสุกซูพีเรียร์ 118  กิโลแคลอรี  ไส้กรอก Chipolatas 246 กิโลแคลอรี และซาลามี่ มากกว่า 400 กิโลแคลอรี

 

ทั้งนี้ ปริมาณแคลอรีดังกล่าวเป็นเพียงข้อบ่งชี้เท่านั้น เรายังต้องระมัดระวังเรื่องปริมาณอาหารเวลารับประทานแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม เราสามารถพูดได้ว่า ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทไม่ได้เป็นพลังงานว่างเปล่า (แคลอรีที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร)  ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทเป็นอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีอัตราส่วนของแคลอรีและสารอาหารที่น่าสนใจ

 

นอกจากนี้ หากเรารับประทานผลิตภัณฑ์โคลด์คัทในปริมาณและความถี่ที่เหมาะสม และยิ่งถ้าทานร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ แบบสมดุล ผลิตภัณฑ์โคลด์คัทเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่ให้คุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดี

โบนัส : สูตรอาหารผลิตภัณฑ์โคลด์คัทที่ดีต่อสุขภาพ

สลัดกระเทียมต้นใส่ลาร์ดอนและแรดิช ที่ให้ทั้งคุณค่าทางอาหารและความอร่อย

bottom of page