top of page
Products

คุณภาพและมาตรฐานยุโรป

ผลิตภัณฑ์ในยุโรปจะมีตราสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ออกให้อย่างเป็นทางการโดยสหภาพยุโรป ซึ่งใช้เพื่อแจ้งให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในยุโรป ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต้องมีมาตรฐานการผลิตที่เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวด โดยตราสัญลักษณ์ต่างๆ มีดังนี้

Protected Geographical Indication (PGI)


(ภาษาฝรั่งเศส คือ Indication Géographique Protégée (IGP) เป็นตราสัญลักษณ์ที่ออกให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่มีคุณภาพ เป็นที่รู้จักหรือมีลักษณะคุณสมบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแหล่งกำเนิดทางภูมิศาสตร์นั้นๆ เพื่อจะได้สิทธิ์ในการได้รับตราสัญลักษณ์นี้ ต้องมีขั้นตอนอย่างน้อยหนึ่งขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การแปรรูป หรือการเตรียมผลิตภัณฑ์ ที่ต้องเกิดขึ้นในพื้นที่ที่กำหนดไว้

PDO_Red label.png

Protected Designation of Origin (PDO)
(ภาษาฝรั่งเศส คือ Appellation d’Origine Protégée (AOP)) เป็นตราสัญลักษณ์ที่ออกให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะในท้องถิ่นนั้นๆ โดยที่ทุกๆ ขั้นตอนของการผลิตผลิตภัณฑ์จะต้องเกิดขึ้นในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กำหนดไว้และต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและวิธีการที่ปฏิบัติในพื้นที่นั้นๆ

PDO_Red label True.png

เกษตรอินทรีย์

มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ถูกกำหนดขึ้นตามระเบียบของสหภาพยุโรป เลขที่ 834/2007 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2007 มีเป้าหมายในการสร้างระบบการจัดการที่ยั่งยืนสำหรับการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการปรับปรุงคุณภาพดิน น้ำ พืช และสัตว์ และพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพ

European Standard
Our Commitments

ความมุ่งมั่นของเรา

การผลิต

ด้วยสูตรที่มากถึง 450 สูตร ผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท นับได้ว่าเป็นศิลปะการใช้ชีวิตรูปแบบหนึ่งที่มียาวนานมาหลายร้อยปี ก่อให้เกิดการแบ่งปัน หรือแม้กระทั่งความสนุกสนาน และทำให้เราเห็นความคิดสร้างสรรค์และความรู้ความชำนาญอันยอดเยี่ยม


คุณภาพถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของสินค้า ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท จึงเลือกซัพพลายเออร์อย่างเข้มงวด และยังทำการตรวจสอบแหล่งผลิตโดยหน่วยงานอิสระอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้าในทุกๆ ขั้นตอนของการผลิต

ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการผลิตต่างๆ

อุณหภูมิของแฮม ความหนาของไขมันและน้ำหนักเป็นเกณฑ์ที่จะกำหนดระยะเวลาการบ่มของแฮมแต่ละชิ้น โดยคนทำแฮมจะทำการหมักแฮม ก่อนนำแฮมไปวางไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 0 ถึง 3 องศา เพื่อให้น้ำหมักในแฮมคงที่ก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งก็คือการทำให้แห้ง วิธีนี้มีประโยชน์ในการตรวจสอบว่าแฮมแต่ละชิ้นมีความนุ่มแค่ไหน และเพื่อให้แน่ใจว่าการเสียน้ำจะสม่ำเสมอตั้งแต่ตรงกลางแฮมไปจนถึงผิวหนังชั้นนอก โดยที่แฮมควรจะต้องนุ่มเสมอ ต่อมา คนทำแฮมจะดูในเรื่องของกลิ่นปรุงรส โดยเฉพาะกลิ่นเฮเซลนัทคั่ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ หลังจากนั้นแฮมจะผ่านการบ่มเป็นเวลาสองสามเดือนเพื่อให้แฮมมีกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ระยะเวลาในการบ่มจะแตกต่างกันออกไปตามขนาดของแฮม

ขั้นตอนการทำให้ลาร์ดอนมีรสรมควัน

 

ลาร์ดอน (lardon) เป็นก้อนไขมันติดเนื้อ ลักษณะคล้ายหมูสามชั้น หั่นเป็นก้อนๆ หรือแถบชิ้นเล็กๆ โดยขั้นตอนแรกเริ่มจากการก่อควันโดยใช้เศษไม้หรือตัวต้านทานไฟฟ้า ปริมาณออกซิเจนจะถูกควบคุมโดยการเผาไหม้แบบไม่ลุกไหม้

ขั้นตอนที่สองคือการวางเนื้อสัตว์ไว้ในห้องรมควันซึ่งจะใช้เวลา 2 ถึง 3 ชั่วโมง ความชื้นจะถูกควบคุมเพื่อให้ควันสามารถเกาะติดกับผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่มีน้ำหยด

 

ขั้นตอนสุดท้ายคือการเลือกชนิดของไม้ซึ่งกำหนดรสชาติและสีของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย

เจลาตินในผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท

 

เจลาตินผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติในระหว่างการปรุงเนื้อบางประเภท ของเหลวเมื่ออุ่น จะแข็งตัวเมื่อเย็นตัว เจลาตินมีหน้าที่หลายอย่างขึ้นอยู่กับบริบท:

 

• ในการทำปาเต้และเทอร์รีน เจลาตินถูกใช้เพื่อเติมช่องว่างที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิตผลิตภัณฑ์ โดยเกิดจากการระเหยของน้ำออกจากเนื้อสัตว์

• เจลาตินช่วยให้เรานำเนื้อชิ้นต่างๆ มาเกาะรวมกันได้ เช่น ลิ้นหมูในเจลาติน เฮดชีส (เทอร์รีนหรือเจลลี่เนื้อ) หรือแฮมพาร์สลีย์

• เมื่อเราใส่เจลาตินลงในผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น ปาเต้ตับ มันจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์คงรูปร่างและเพิ่มความสวยงามได้

• เราสามารถใช้เจลาตินเป็นไส้บรรจุไส้กรอกหรือเปลือกหุ้มได้ เหมือนกับที่เราใช้ในไส้กรอก Andouillettes

การตรวจสอบย้อนกลับและคุณภาพ

เรามีการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ นับตั้งแต่วัตถุดิบจนกระทั่งผลิตภัณฑ์อยู่ในชั้นวางสินค้าของผู้จัดจำหน่าย การเลือกวัตถุดิบเป็นไปตามข้อกำหนดที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ มั่นใจในคุณภาพของสินค้าที่ได้มา โดยมีการระบุวิธีปฏิบัติในการผลิตที่ดีที่ซัพพลายเออร์ทุกรายต้องปฏิบัติตาม

คุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรอง มีการตรวจสอบที่สม่ำเสมอและมีการควบคุมคุณภาพปีละหลายพันครั้ง

คุณภาพของผลิตภัณฑ์เริ่มต้นจากการควบคุมคุณภาพเนื้อสัตว์ ซึ่งมีการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบเมื่อมาถึงที่ผลิต

เกณฑ์ในการประเมินมี 2 ข้อหลัก :

 

  • คุณภาพทางจุลชีววิทยา : มีการวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยาในทุกขั้นตอน (วัตถุดิบ สภาพแวดล้อม การสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์สุดท้าย)

  • คุณภาพทางเทคโนโลยีและรสชาติ : การประเมินจะดำเนินการในรูปแบบของการตรวจสอบเนื้อเยื่อที่ใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อของสัตว์

 

ในกรณีที่มีความผิดปกติ การตรวจสอบย้อนกลับยังช่วยให้สามารถแจ้งผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและให้เราเอาผลิตภัณฑ์ออกจากจุดขายต่างๆ ได้ทันที นอกจากนี้ เพื่อให้อาหารมีคุณภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น บริษัทผู้ผลิตต่างๆ มักใช้บริการระบบห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรกับสัตว์อีกด้วย

ความมุ่งมั่นของเรา

ด้านสภาพแวดล้อม

ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานในการปศุสัตว์ (น้ำ ไฟฟ้า) ลดมลภาวะและสิ่งรบกวนที่เกิดจากฟาร์มสุกร

เคารพสวัสดิภาพสัตว์ (การออกแบบโรงเรือน คุณภาพแสงที่มีการสลับกลางวัน/กลางคืน ปริมาณสัตว์ต่อจำนวนพื้นที่ เป็นต้น)

การตรวจสอบโดยสัตวแพทย์ (การป้องกันโรค การลงทะเบียนสัตว์ การตรวจสอบย้อนกลับ)

Cornet de jambon cuit aux le¦ügumes grille¦üs.jpg

การตรวจสอบอาหารสัตว์

การติดตามคุณค่าทางโภชนาการของสัตว์ (โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปนเปื้อนหรือกระดูกป่น)

 

อาหารสัตว์

ส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่น (ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบด้านการขนส่ง)

การเพิ่มประสิทธิภาพของอาหารสัตว์

การฆ่าสัตว์และการชำแหละ : มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ (การขนส่ง โรงเรือนดัดแปลง คอกสัตว์ การพักผ่อน และการให้น้ำ)

 

และการตรวจสอบย้อนกลับ

(แหล่งกำเนิดและการควบคุมสุขาภิบาล)

ความมุ่งมั่นที่ทำโดยผู้ผลิต

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ดียิ่งขึ้น ผู้ผลิตโคลด์ คัท ของฝรั่งเศสมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เช่น มีการพัฒนาคุณภาพของรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของสินค้า ตลอดจนมีการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ดี

มาตรฐานที่ดีในการปศุสัตว์ การขนส่ง การฆ่าสัตว์ และในขั้นตอนการผลิตต่างๆ ล้วนส่งผลด้านดีต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา นอกจากนี้ การเคารพสวัสดิภาพสัตว์ยังรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเราอีกด้วย

Meats

แหล่งที่มาของเนื้อสัตว์

 

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จะทำเครื่องหมายเป็นรหัสไว้ที่สัตว์ทุกตัวเมื่อแรกเกิด ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเราจะมีการตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งกำเนิดสินค้า

 

ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน จนกระทั่งเมื่อสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน โภชนาการอาหารสัตว์ ความหลากหลายของวัตถุดิบ วิธีการผลิต สูตร และส่วนผสมต่างๆ ทำให้เราได้อาหารที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้อาหารมีความหลากหลาย และทำให้เราได้รับประทานด้วยความมั่นใจและสบายใจ

เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและทานร่วมกับอาหารจานอื่นอย่างหลากหลายและสมดุล ผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท ถือว่าเป็นอาหารที่น่าสนใจรายการหนึ่ง แม้ว่าผลิตภัณฑ์โคลด์ คัทแต่ละรายการจะมีคุณค่าทางโภชนาการในตัวเอง เรายังสามารถกล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์โคลด์ คัทโดยรวม มีคุณค่าทางโภชนาการดังต่อไปนี้

 

• มีโปรตีนที่มีคุณค่าทางชีวภาพสูง พร้อมกับกรดอะมิโนที่จำเป็น

• มีไขมันดีสูง : ไขมันไม่อิ่มตัว 57 % ซึ่งรวมถึงไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนมากกว่า 12 % และแทบไม่มีไขมันทรานส์

• เป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญของ กลุ่มวิตามิน B3, B6, PP และ B12

• เป็นแหล่งธาตุเหล็กฮีม สังกะสี และซีลีเนียม

ความมุ่งมั่นของผู้ผลิต

 

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในด้านโภชนาการอาหาร และเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอยู่เสมอ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าดังต่อไปนี้

ปริมาณเกลือและไขมันน้อยลง

ในปี 2010 ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ที่ผลิตแบบอุตสาหกรรมหรือรายเล็ก ลงนามโดยสมัครใจในกฎบัตรฉบับแรกที่เกี่ยวกับด้านโภชนาการ และมีความมุ่งมั่นที่จะลดปริมาณโซเดียมและไขมันโดยเฉลี่ย 5 % โดยกำหนดเกณฑ์สูงสุด ในผลิตภัณฑ์ 9 หมวดหมู่ที่มีการบริโภคมากที่สุด : แฮมสุกซูพีเรียร์ แฮมแห้ง ลาร์ดอน ปาเต้สไตล์คันทรี่ ปาเต้และมูสตับหมู รีแยตส์หมู ไส้กรอก Knack ไส้กรอกแห้งซูพีเรียร์ และไส้กรอกแห้งหมูล้วน และเพื่อเป็นการต่อยอดแนวทางนี้ ผู้ผลิตต่างๆ ได้ลงนามในปี 2015 ในข้อตกลงร่วมกันฉบับใหม่เพื่อลดปริมาณโซเดียมและไขมันโดยเฉลี่ยลง 5 % ในผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 12 หมวดหมู่

 

โดยรวมแล้ว ส่งผลให้มีการใช้วัตถุดิบเหล่านี้ลดลง

• เกลือจำนวน 1040 ตันต่อปี

• ปริมาณไขมันในผลิตภัณฑ์โคลด์ คัท รายการหลักๆ จำนวน 2836 ตันต่อปี

ปริมาณไนไตรต์ลดลง

 

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีล่าสุด ผู้ผลิตต่างๆ สามารถลดการใช้ไนไตรต์ให้น้อยลงได้ ทั้งในด้านจำนวนและปริมาณของไนไตรต์ พวกเขาจำกัดการใช้ไนไตรต์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยทางจุลชีววิทยา (โรคโบทูลิซึม เชื้อซัลโมเนลโลซิส ลิสเตอริโอซิส) และคุณภาพของรสชาติของผลิตภัณฑ์

 

ความมุ่งมั่นนี้บันทึกอยู่ใน « The Code des Usages de la Charcuterie, de la Salaison et des Conserves de Viandes » โดยที่กฎระเบียบของยุโรปกำหนดให้มีการใช้ได้ไม่เกิน 150 มก. / กก.

bottom of page